รีวิวอัพเดทล่าสุดตลาดน้ำขวัญเรียม วัดบำเพ็ญเหนือและวัดบางเพ็งใต้

พบกันอีกครั้งกับรีวิวที่ทางทีมงาน Gupapai คัดสรรมาให้เพื่อนๆ ซึ่งในครั้งนี้จะขออัพเดทตลาดน้ำขวัญเรียมล่าสุด ณ ปัจจุบันซะหน่อย ที่บอกว่าอัพเดทล่าสุดก็เพราะตลาดน้ำแห่งนี้เปิดมาหลายปีแล้ว แต่ความเปลี่ยนแปลงก็มีมากเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการให้บริการรถรับส่งฟรี, ติดพัดลมไอน้ำหลายจุด และอื่นอีกเพียบ ถ้าอย่างไรทีมงานจะพาทุกท่านไปสัมผัสบรรยากาศตลาดน้ำขวัญเรียมกันได้เลย

master

เริ่มจากทางเข้าตลาดน้ำขวัญเรียมจะสามารถเข้าได้หลายทางไม่ว่าจะเป็นทางวัดบำเพ็ญเหนือ หรือวัดบางเพ็งใต้ ซึ่งทางวัดบางเพ็งใต้จะเข้าได้สองทาง โดยทางที่ทีมงานเข้าคือทางวัดบางเพ็งใต้ ซึ่งจะถึงก่อนทางเข้าวัด  (ถ้าเลยไปอีกหน่อยจะเป็นทางเข้าหน้าวัดบางเพ็งใต้ ลืมบอกไปว่าทางทีมงานวิ่งมาทาง ถ.รามคำแหง) ส่วนแผนที่การเดินทางเพื่อนๆ สามารถดูได้จากด้านล่างในบทความนี้ได้นะจ๊ะ

IMG_2213

เมื่อขับรถเข้าซอยไม่ไกลก็จะพบกับที่จอดรถ ซึ่งทีมงานคิดว่าก็มีอยู่พอสมควร แต่ถ้าไม่อยากแย่งหาที่จอดกับใครแนะนำให้มาช่วงสายๆ ก่อนเที่ยงจะมีที่จอดแบบสบายๆ

IMG_2262

 หลังจากที่เดินเข้ามาในส่วนตลาดน้ำขวัญเรียม เพื่อนๆ จะพบกับเจ้าควายน้อยน่ารักๆ ยืนต้อนรับอยู่ จะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกก่อนก็ได้นะ

IMG_2273

และหากเดินเข้ามาตามทาง เพื่อนๆ จะได้พบกับเจ้าซุปเปอร์แมนยืนอยู่ด้านข้าง และตรงกลางจะเป็นที่นั่งพัก ซึ่งขอบอกว่าเยอะมาก จะนั่งพักหรือนั่งหาอะไรมาทานตรงนี้ก็จัดได้เลย

IMG_2250

 ส่วนร้านค้าที่ขายของอยู่ด้านข้างตามทางเดิน จะตกแต่งร้านสไตล์โบราณ ซึ่งทำให้ทีมงานนึกถึงความหลังสมัยหลายสิบปีก่อนเลย

IMG_2254

นอกจากนั้นถ้าเพื่อนๆ อยากเก็บภาพความประทับใจก็สามารถใช้บริการร้านนี้ได้ ซึ่งภาพที่ได้จะเป็นรูปขาวดำ พูดได้ว่าเราจะได้ภาพที่ระลึกสมัยเมื่อหลายสิบปีก่อนมาเก็บไว้อวดเพื่อนๆ เลย

IMG_2248

เมื่อเดินมาเรื่อยๆ ก็สะดุดกับร้านนี้ เพราะเป็นการประยุกต์ความเก่ากับใหม่เข้าด้วยกัน เอาเป็นว่าเพื่อนๆ คนไหนมาที่นี่แล้วใช้บริการก็เอามาอวดกันบ้างเน้อ

IMG_2253

 ส่วนร้านใกล้ๆ กันจะมีโมเดลจำลองตั้งอยู่ ทีมงานเลยขอเก็บภาพมาฝากเพื่อนๆ

IMG_2246

ถ้าเพื่อนๆ คนไหนชอบชุดดินเผา ร้านนี้เค้าก็มีขาย ซึ่งมีหลายขนาดหลายราคาให้เลือกซื้อกัน

IMG_2272

ส่วนหน้าร้านจะมีเจ้าลิงกอริลลายืนต้อนรับอยู่ ถ้าใครบริจาคเงินให้มันจะดีใจและตีฉาบอัตโนมัติ แหม่!! เจ้าของร้านเข้าใจคิดจริงๆ

IMG_2277

อย่างที่บอกไว้ตอนแรกคือ ที่นั่งพักในส่วนทางเดินมีมากมาย แถมไม่เหมือนใครอีกด้วยก็เล่นเอาอ่างอาบน้ำมาทำเป็นที่นั่ง ทีมงานเลยทดสอบนั่งดู อืม! มันนั่งสบายจริงๆด้วยแฮะ

IMG_2224

ร้านค้าที่ตั้งในตลาดน้ำขวัญเรียมไม่เพียงแค่ขายของโบราณอย่างเดียว เค้ามีขายเสื้อยืดสไตล์เก๋ๆ ทันสมัยให้เลือกช็อปอีกด้วย ที่สำคัญตัวละ 100 บาทเท่านั้นเอง

IMG_2218

 ไม่ใช่แค่เสื้อยืดราคา 100 บาท กระเป๋าสะพายก็ราคาเท่ากันจ้าา

IMG_2234

สินค้าอีกอย่างที่น่าสนใจคือการะบูนที่จะซื้อไว้ใส่ในรถยนต์ ตู้เสื้อผ้า ตู้หนังสือ ฯลฯ  ก็ไม่มีปัญหา ราคาเบาๆ ใบละ 15 บาท สวยเก๋ไม่เหมือนใคร

IMG_2240

 สำหรับสาวๆ ที่ชอบของกระจุกกระจิ๊กก็มาเลือกได้ที่ร้านนี้เลย ทุกอย่าง 20 บาทเท่านั้น

IMG_2270

และถ้าเพื่อนๆ หิวก็สามารถหาซื้อของกินได้ตามทาง ไม่ว่าจะเป็นกล้วยทอด ร้านนี้ มีทั้งกล้วยทอด ฟักทองทอด สับปะรด และของทอดอีกเพียบเลย

IMG_2220

อีกร้านที่น่าทานก็เห็นจะเป็นแคปหมู น้ำพริกหนุ่มร้านคุณพี่แสงดาว ใครมาที่นี้ก็แวะอุดหนุนร้านพี่เค้าได้นะ ^__^

IMG_2267

ถ้าไม่สะใจก็นั่งทานอาหารตรงส่วนนี้ได้ ซึ่งเค้ามีเมนูให้เลือกทานมากมาย แต่ขอบอกก่อนว่า อดใจอีกนิดข้ามไปกินอีกฝั่งดีกว่า มีร้านเจ๋งๆ บรรยากาศดีๆ และน่าทานรออยู่

IMG_2236

พื้นที่ตรงนี้ก็เป็นอีกที่ที่ให้นั่งรับประทานอาหาร แต่ยังไม่ใช่ส่วนที่จะแนะนำให้ทาน เพราะอีกฝั่งมีร้านรออีกเพียบเลย

IMG_2284

ตอนนี้ทีมงานเดินทางถึงทางเข้าวัดบางเพ็งใต้ ซึ่งถ้าเพื่อนๆ จะแวะเข้าไปทำบุญก่อนก็เข้าไปทำได้ สำหรับส่วนนี้จะเป็นทางเชื่อมระหว่างพื้นที่วัดกับตลาดน้ำขวัญเรียมนั่นเอง

IMG_2227

อีกส่วนที่ทีมงานค่อนข้างประทับใจคือความรู้ที่ติดอยู่ตามบอร์ด โดยจะมีติดเป็นระยะๆ น้องๆ หนูๆ ก็แวะอ่านหาความรู้ได้นะจ๊ะ

IMG_2235

 ส่วนน้องๆ หนูๆ ที่อยากขี่ม้าถ่ายรูปก็จัดได้ ราคาเพียง 100 บาทเท่านั้น หรือจะให้อาหารม้าก็แค่ 20 บาทเอง

IMG_2287

เจ้าอัลปาก้า ที่คอยต้อนรับแขกที่มาเยือนตลาดน้ำขวัญเรียม น่ารักจริงๆ

IMG_2241 copy

นอกจากนั้นยังมีลุงเต่าสองตัวที่นั่งอยู่ตรงพื้นที่กลางในตลาดน้ำขวัญเรียม แหม่!! สัตว์น้อย สัตว์ใหญ่ มีเยอะมากมาย

IMG_2368

 เจ้านกฟลามังโก้สีดำที่ทางตลาดน้ำขวัญเรียม เปิดให้น้องๆ หนูๆ ได้ชมและศึกษาหาความรู้

IMG_2297

และแล้วก็มาถึงไฮไลท์ของตลาดน้ำขวัญเรียม นั่นก็ ศาลขวัญ- เรียม เพื่อนๆที่เดินทางมาที่นี้ก็แวะสักการะบูชา เพื่อเป็นสิริมงคลต่อตนเองและครอบครัว

IMG_2319

คราวนี้มาถึงสะพานเชื่อมต่อระหว่างวัดบางเพ็งใต้กับวัดบำเพ็ญเหนือ ซึ่งเราเดินมาจากวัดบางเพ็งใต้ก็จะข้ามไปยังวัดบำเพ็ญเหนือ

IMG_2322

ร้านนี้อยู่ทางฝั่งวัดบำเพ็ญเหนือ ชั้น 2 (ข้ามสะพานมาเลยของไล่จากชั้น 2  ลงไปชั้นล่าง) ร้านนี้ชื่อร้านปัณรส ขายของพื้นฐานทั่วไป ทีมงานช๊อปชอบสไตล์การแต่งร้านของเค้าจริงๆ ดูเข้ากันดี

IMG_2331

 เมื่อเดินต่อมาทีมงานก็เจอร้านขายแก้วน้ำ… วันเกิด ใครจะซื้อเป็นของฝากก็เก๋ดีไม่น้อยเลย

IMG_2344

เมื่อเดินมาสุดทางก็จะพบกับทางลงบันได ซึ่งทีมงานสังเกตเห็นลิฟท์บริการผู้สูงวัย, สตรีมีครรภ์ และคนพิการ ขอบอกว่าส่วนนี้ชอบมากๆ เพราะทีมงานเชื่อว่ามีหลายท่านที่อยากชวนผู้สูงอายุหรือผู้พิการมาเที่ยว คราวนี้ก็ไม่ต้องลำบากเวลาขึ้นลงบันไดล่ะงานนี้ ^___^

IMG_2337

 ร้านนี้คนเยอะมาก เห็นสีสันข้าวเหนียวก็อยากเข้าไปซื้อทานเหมือนกันแหละ

IMG_2354

เพื่อนๆ คนไหนที่ชอบกินซูชิ ร้านนี้ก็น่าสนใจจัดร้านได้สวยน่าเข้าไปซื้อจริงๆ เลย

IMG_2346

เท่าที่ทีมงาน Gupapai สังเกตแพ็คเกจถุงของตลาดน้ำขวัญเรียม เค้าใช้ถุงเหมือนกันทั้งหมด ซึ่งทีมงานคิดว่าผู้บริหารเค้ามีการย้ำแบรนด์เพื่อสร้างการจดจำ อีกทั้งเวลาซื้อเป็นของฝากก็ยังดูดีอีกด้วยแหละ

IMG_2341

รูปปั้นเณรน้อยที่ตั้งอยู่ติดกับโซนที่ขายของกิน ทีมงานเห็นอะไรก็สวยไปหมดเลย

IMG_2349

โซนนี้อยู่ติดกับส่วนที่ขายของกินเช่นกัน เพื่อนๆ คนไหนจะซื้อแล้วมานั่งทานตรงนี้ก็ได้อีกบรรยากาศ

IMG_2352

ส่วนใครอยากทำบุญให้อาหารปลาก็แค่ถุงละ 10 บาทเท่านั้น

IMG_2376

หากเดินมาอีกด้านหนึ่งก็จะมีทางเดินเล็กๆ เดี๋ยวเราไปดูว่าคือพื้นที่ให้บริการอะไร

IMG_2373

นี่แหละที่ทีมงานบอกตอนแรกว่าอย่าเพิ่งรีบทานฝั่งวัดบางเพ็งใต้ ให้เลือกมาทานกันตรงนี้เลย มีร้านให้เลือกทานมากมาย อย่างร้านนี้ก็เป็นอาหารทะเลสดๆ แถมน้ำน้ำจิ๋มรสเด็ดอีกด้วย

IMG_2374

และทางหน้าร้าน See’d..Seafood ก็วางโชว์อาหารทะเลกันแบบสดๆ ให้เห็นเต็มตาเลย น่าทานจริงๆ

IMG_2379 copy

และหากเดินมาอีกหน่อยก็จะเจอ ร้านขาหมูซัวเถา ซึ่งก็น่าทานไปหมด เอาเป็นว่าถ้าเพื่อนๆ ได้ไปเดินเล่นตลาดน้ำขวัญเรียมก็เลือกทานตามสบายได้เลย

IMG_2229

สุดท้ายขอปิดด้วยห้องน้ำที่ให้บริการ ณ ตลาดน้ำขวัญเรียม ซึ่งจะมีคุณลุงดีดอูคูเลเล่อยู่ด้านหน้า ส่วนค่าบริการ 5 บาทนะจ๊ะ (พื้นที่ห้องน้ำให้บริการตรงนี้จะอยู่ที่โซนวัดบางเพ็งใต้) และวันนี้ทีมงาน Gupapai ต้องขอตัวไปก่อน ไว้ครั้งหน้าจะขออาสาเป็นไกด์พาไปกินและเที่ยวอีกนะเธอ

IMG_2383

สรุปตลาดนำ้ขวัญเรียม

– มีบริการรถรับส่งฟรี
– พื้นที่ระหว่างทางเดินมีพัดลมไอน้ำเกือบตลอดทาง ทำให้เดินแล้วเพลิน ไม่ร้อน
– ที่นั่งพักเยอะมาก ถ้าเทียบกับตลาดน้ำที่อื่นๆ
– ถังขยะมีตลอดทาง แถมสะอาดอีกด้วยล่ะ
– มีลิฟท์บริการช่วงขึ้นลง สำหรับคนที่ชราหรือผู้พิการ

ตลาดน้ำขวัญเรียม เปิดทำการเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์  : เวลา 6.00 น.- 18.00 น. ตักบาตรพระทางน้ำ  : เวลา 7.00 น. –  8.00 น.
โทร  083-056-1903  อิเมล : kwanriam2012@gmail.com

ทีมงาน Gupapai เก็บคลิปบรรยากาศมาฝากด้วย : รีวิวตลาดน้ำขวัญเรียม-วัดบางเพ็งใต้,วัดบำเพ็ญเหนือ

การเดินทางไปตลาดน้ำขวัญเรียม วัดบำเพ็ญเหนือและวัดบางเพ็งใต้

รถโดยสาร

เส้นทางที่ 1 (ไปทางวัดบำเพ็ญเหนือ)

รถเมล์สาย 27, 151, 502 บอกว่าลงวัดบำเพ็ญเหนือ หรือ ตลาดน้ำขวัญเรียม ก็ได้ รถจะจอดป้ายรถเมล์ด้านตรงข้ามซอยเสรีไทย 91แล้วเดินต่อไปอีกนิดก็จะเจอประตูวัดแล้วเดินตรงไปเลย

เส้นทางที่ 2 (ไปทางวัดบางเพ็งใต้)

รถเมล์สาย 58, 113, 514 บอกว่าลงวัดบางเพ็ง ถึงหน้าวัดแล้วเดินเข้าไปอีกนิดก็ถึงแล้วจ้า

map1

รถส่วนตัว

เส้นทางที่ 1 (ไปทางวัดบำเพ็ญเหนือ)

วิ่งตรงมาจาก The Mall บางกะปิ ผ่านสวนสยาม จะเจอปากทางเข้าวัดบำเพ็ญเหนือ อยู่ทางด้านขวา ต้องไปเลี้ยวกลับ ในวัดจอดรถฟรี

เส้นทางที่ 2 (ไปทางวัดบางเพ็งใต้)

วิ่งตรงมาจาก ม.รามคำแหง ผ่านแยกบ้านม้า ผ่านซอยมิสทีนไป วัดบางเพ็งใต้อยู่ทางซ้ายมือ ในวัดจอดรถฟรี

Grade-Khaw

ติดตามข่าวสารทาง Facebook ได้ที่เพจ Gupapai


ที่มาของตลาดน้ำขวัญเรียม วัดบำเพ็ญเหนือและวัดบำเพ็ญใต้

เราเป็นชาวชนบท โดยกำเนิดมีความใฝ่ฝันอยากจะจำลองชีวิต ชาวน้ำให้คนรุ่นหลัง ได้เห็นภาพพระพายเรือ รับบาตรชาวบ้าน ทอดผ้าป่า ทางน้ำท่ามกลางสายน้ำ เงียบสงบของคลองแสนแสบที่มีประวัติอันยาวนาน ตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ขนาบด้วยวัดบำเพ็ญเหนือ และวัดบางเพ็งใต้ โดยมีกิจกรรม ให้ผู้มีจิตศรัทธาพาสมาชิก ทั้งครอบครัว มาตักบาตรทางน้ำ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ฟังธรรม ดูการละเล่นไทย ภายใต้บรรยากาศอันสงบ ร่มรื่น

มันเป็นความหวังของคนชนบท ผู้ต่ำต้อย อยากสะท้อนชีวิต ชาวเรือ ชาวบ้านทุ่ง ที่อุตส่าห์ ขนกองเรือโบราณของ ปู่ย่า ตายาย มาแสดงให้ดูไม่ได้คิดหวังทางธุรกิจ แต่อย่างใด ขอเพียงชาวไทยและ ชาวต่างชาติได้เข้าวัด ฟังธรรม คำสั่งสอนของพระพระพุทธเจ้าก็ถือ “เป็นกำไรแล้ว” เราชาวบ้านทุ่ง จะเริ่มเล่าประวัติคลองแสนแสบ อันยาวเหยียด ใครเป็นผู้ขุด ผ่านอุปสรรคอย่างใดบ้าง เล่าความเป็นมา วัดบำเพ็ญเหนือ วัดบางเพ็งใต้

IMG_2300

เหตุใดวัดทั้งสองถึงอยู่ตรงข้ามกัน มีเพียง สายน้ำกั้น อย่างนี้ไม่มีอีกแล้ว ในประเทศไทย จุดกำเนิดอมตะนิยาย “แผลเก่า” ตัวเอกในเรื่อง ขวัญและเรียม ซึ่งเป็น บทประพันธ์ของ ไม้ เมืองเดิมได้รับการถ่ายทอด เป็นภาพยนตร์ และ ละครทีวี หลายครั้ง กล่าวโดยเฉพาะเมื่อ เชิด ทรงศรี นำมาสร้างเป็น ภาพยนตร์ พ.ศ.2520 ทำสถิติรายได้ สูงสุดของประเทศไทย ในเวลานั้นและชนะการประกวดภาพยนตร์ ณ เมืองน็อง ประเทศฝรั่งเศส

เมื่อปี พ.ศ.2524 และพ.ศ.2541 “แผลเก่า” ได้รับเลือกจากหอภาพยนตร์ และ โทรทัศน์แห่งชาติ ในประเทศอังกฤษให้เป็น 1 ใน 360 ภาพยนตร์คลาสสิค ของโลก โดยมีการประกาศผล เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2544 แต่อย่างไรก็ตาม พวกเราจะพยายาม จำลองภาพชีวิต ประเพณีของชาวบ้านทุ่งริมน้ำ ความสงบร่มรื่น เหมือนเมื่อครั้งพวกเรายังวิ่งเล่นกลางท้องไร่ ท้องนา มาให้ท่านเห็น เท่าที่สติปัญญาและกำลังทรัพย์ ของชาวบ้านนอก จะพึงมี

ด้วยจิตคารวะ ชาวเรือ

แหล่งข้อมูล : http://www.kwan-riamfloatingmarket.com/v2/index2.php


ประวัติแผลเก่า (ความรักของขวัญและเรียม) – จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

แผลเก่า ของ ไม้ เมืองเดิม แผลเก่า เป็นผลงานประพันธ์เรื่องแรกของ ไม้ เมืองเดิม ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2479 นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2483 และ พ.ศ. 2489 ต่อมา เชิด ทรงศรี นำกลับมาสร้างภาพยนตร์อีกครั้งเมื่อ พ.ศ. 2520 ทำสถิติรายได้สูงสุดเมื่อออกฉายครั้งแรก ลบสถิติภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เข้าฉายในเวลานั้นทั้งไทยและต่างประเทศ

นอกจากนี้ยังได้ไปประกาศศักดาของภาพยนตร์ไทยโดยคว้ารางวัลชนะเลิศจากงานประกวดภาพยนตร์ ณ เมืองน็องต์ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี พ.ศ. 2524นอกจากนี้ยังถูกสร้างเป็นละครในชื่อ “ขวัญเรียม” ฉายทาง ช่อง 4 บางขุนพรหม และสร้างใหม่อีกหลายครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อ พ.ศ. 2544 เนื้อเรื่อง แผลเก่า ในปี พ.ศ. 2479 ณ ท้องทุ่งบางกะปิ ไอ้ขวัญลูกผู้ใหญ่เขียน หนุ่มเลือดนักเลงรูปงามมีเพื่อนสนิท คือ ไอ้เฉ่ง ไอ้เยื้อน ไอ้สมิง ไอ้เปีย ผู้ใหญ่เขียนรักไอ้ขวัญมากจึงไม่คิดที่จะมีเมียใหม่

แล้วความวุ่นวายก็เกิดขึ้นเมื่อ นายเรืองและไอ้เริญ รุกล้ำที่นาของผู้ใหญ่เขียนและเกิดเป็นคดีความขึ้นแต่นายเรืองแพ้จึงประกาศตัวเป็นศัตรูกับผู้ใหญ่เขียน แต่เหมือนเป็นกรรมเก่าที่ทำร่วมกันมา เพราะขวัญเกิดไปชอบพอกับเรียม ลูกสาวนายเรือง ซึ่งมีหนุ่มมารุมรักมากมาย รวมถึงไอ้จ้อยเศรษฐีมีเงินขวัญกับเรียมแอบนัดพบกันเสมอ ความรักของทั้งสองยิ่งแน่นแฟ้นขึ้นจนทั้งคู่แอบมีอะไรกัน ขวัญพร่ำบอกว่ารักเรียมเท่าชีวิต

แต่เรียมนั้นไม่แน่ใจจึงพาขวัญไปสาบานต่อหน้าศาลเจ้าพ่อไทร ขวัญโกรธที่เรียมไม่เชื่อใจจึงเอามีดกรีดแขนตัวเอง เพื่อใช้เลือดเป็นเครื่องยืนยันความรัก ทั้งคู่สาบานรักกันต่อหน้าศาลเจ้าพ่อไทรว่าจะซื่อสัตย์ต่อกันตลอดไป จ้อยเห็นขวัญกับเรียมอยู่ด้วยกันจึงถีบหน้าขวัญอย่างจัง ไอ้เริญได้ใช้ดาบฟันที่กกหูขวัญเป็นแผล ขวัญจะฆ่าจ้อยแต่เรียมขอเอาไว้ อีกอย่างนายเรืองอนุญาตให้ขวัญยกขันหมากมาสู่ขอเรียม ซึ่งสร้างความหวังให้กับทั้งคู่เป็นอย่างมาก แต่แล้วทุกอย่างก็ไม่เป็นไปตามที่หวัง เมื่อไอ้เริญและนางรวยเป่าหูนายเรืองให้กันขวัญออกจากเรียมแล้วยกให้ไอ้จ้อย เพื่อยกฐานะให้กับตนเอง เรียมถูกขายให้คุณนายทองคำที่บางกอก

ขวัญจึงออกไปตามหาที่บางกอกแต่ไม่เจอไอ้ขวัญแทบคลั่ง ด้วยความเป็นห่วงลูกชาย ผู้ใหญ่เขียนแอบเก็บเงินเพื่อช่วยไถ่ตัวเรียมอีกแรง ขวัญคลั่งหนักเมื่อรู้ข่าวว่าไอ้จ้อยจะไปไถ่ตัวเรียมเพื่อมาแต่งงาน ผู้ใหญ่เขึยนจึงไปกราบเท้านายเรืองให้ขวัญมีสิทธิ์ไถ่ถอนตัวเรียมมาแต่งงาน นายเรืองรับกราบ ขวัญเร่งทำงานหาเงินเพื่อไถ่ตัวเรียม เรียมอยู่ที่บางกอกในฐานะทาสรับใช้แต่คุณนายทองคำเอ็นดูเรียมเพราะหน้าคล้ายลูกสาวที่ตายไป จึงรับเป็นลูกบุญธรรม โดยซื้อจากนายเรือง นายเรืองบอกให้ขวัญนำเงินไปไถ่ถอนเรียมเอง แต่แล้วขวัญก็ต้องคลั่งอีกครั้งเมื่อรู้ว่านายเรืองได้ขายเรียมให้กับคุณนายทองคำไปแล้ว

IMG_2361

 

แต่ขวัญยังเชื่อในคำสาบานว่าเรียมจะกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันผู้ใหญ่เขียนเห็นว่าน่าจะให้ขวัญบวชจะได้ทำให้ขวัญสงบลง ฝ่ายเรียมเมื่อขยับขึ้นมาเป็นลูกบุญธรรม ชีวิตก็เปลี่ยนไป สมชายอดีตคู่หมั้นของลูกสาวคุณนายทองคำสนใจเรียมแล้วทั้งสองคนก็ใช้ความศิวิไลซ์ของบางกอกมัดใจเรียม เรียมพอใจกับความเป็นอยู่หรูหรา เริ่มมองว่าสมชายรักจริง และเริ่มมองขวัญเป็นเพียงพวกป่าเถื่อนด้อยพัฒนา ส่วนขวัญเฝ้าเวียนวนภาวนาต่อหน้าศาลเจ้าพ่อไทร ให้ดลใจให้เรียมนึกถึงคำสัญญา แล้วคำภาวนาก็สัมฤทธิ์ผลเมื่อนางรวยป่วย เรียมต้องกลับมาเยี่ยม ขวัญดีใจรีบไปหาเรียม

แต่ต้องผิดหวังเมื่อเรียมดูสูงส่งไม่เหมือนเรียมคนเดิม และเรียมได้หนีขวัญกลับบางกอกทั้งที่สัญญาว่าจะมาพบในตอนกลางคืน ขวัญเสียใจมากจะฆ่าตัวตายต่อหน้าศาลเจ้าพ่อไทร แต่ผู้ใหญ่เขียนมาขวางไว้ ผู้ใหญ่เขียนได้โอกาสตอนที่ขวัญกำลังซมซานจึงพูดเรื่องที่จะให้ขวัญบวช ขวัญก็เออออตามพ่อ เพราะกำลังสับสน เช่นเดียวกับเรียมที่ตอบตกลงแต่งงานกับสมชายเพราะกำลังสับสน จนนางรวยเจ็บหน้าอกอีกครั้ง ทำให้เรียมต้องกลับมาดูแลแม่ ช่วงเวลา 3 วันที่อยู่บางกะปิ เรียมตัดสินใจคืนดีกับขวัญ

ทั้งคู่ร่าเริงเหมือนปลาได้น้ำ แต่เรียมไม่สามารถกำหนดชะตาชีวิตตัวเองได้ นอกจากคุณนายทองคำคนเดียว เวลาผ่านมาถึงวันที่ 4 นางรวยตาย หลังจากเสร็จงานศพ สมชายก็ตามเรียมกลับบางกอกเพราะคุณนายทองคำป่วย เรียมจำใจต้องกลับทั้งที่วันนี้เป็นวันบวชของขวัญ เรียมตั้งใจจะกลับไปบอกคุณนายทองคำว่าเป็นเมียขวัญ และจะไม่แต่งงานกับสมชาย แต่เรียมไม่มีโอกาสที่จะไปบอกขวัญถึงการจากไปครั้งนี้ ที่บ้านผู้ใหญ่เขียนกำลังเตรียมงานบวชโดยที่ไม่รู้เลยว่างานบวชวันนี้จะเป็นงานศพแทน

ขวัญเมื่อรู้เรื่องว่าเรียมจะไปบางกอกถึงกับสติแตกคว้ามีดซุยคู่ใจโดดออกจากเรือน สมชายให้เรียมพาไปเที่ยวท้องนา เรียมตัดสินใจบอกว่าขวัญเป็นหนึ่งในดวงใจและจะไม่แต่งงานกับสมชาย แต่เขาไม่บังคับเพราะต้องการสมบัติของคุณนายทองคำอย่างเดียว ขวัญมาพบการพูดคุยกัน ทำให้ขวัญเข้าใจผิดคิดว่าเรียมจะหนีไอ้ขวัญไปชั่วชีวิต ขวัญคลั่งทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้ารวมทั้งฆ่าไอ้เริญกับสมุนตาย เรียมไม่คิดว่าเรื่องดีจะกลายเป็นเรื่องเลวร้าย เพราะไอ้ขวัญยอดรักถูกสมชายยิงตายไปต่อหน้า ตายไปพร้อมกับความเข้าใจผิดคิดว่าเรียมนอกใจ

ทางด้านผู้ใหญ่เขียนวิ่งถือผ้าไตรและเครื่องบวชตามไอ้ขวัญมา ในขณะที่กระสุนปืนพุ่งใส่ร่างของไอ้ขวัญ ผู้ใหญ่เขียนสะดุดรากไม้ล้มลงพร้อมผ้าไตรและเครื่องบวช ผู้ใหญ่รู้ทันทีว่าไอ้ขวัญไม่มีวันกลับมาเป็นลูกชายของเขาอีก ทำได้แต่ก้มหน้าลงร้องไห้จนสิ้นสติไป เรียมตัดสินใจจะเป็นเมียไอ้ขวัญเพียงคนเดียวชั่วชีวิต จึงตัดสินใจใช้มีดแทงตัวตายตามไอ้ขวัญไป ณ ท้องน้ำอันเป็นที่เริงรักของทั้งคู่ ท้องน้ำที่ไหลสู่ศาลเจ้าพ่อไทร สถานที่ที่ทั้งคู่เคยร่วมสาบานรักกันตราบจนกว่าความตายจะมาพรากทั้งคู่จากกันไป

ภาพยนตร์เรื่อง แผลเก่า ของ เชิด ทรงศรี นำแสดงโดยสรพงศ์ ชาตรี รับบท “ขวัญ”, นันทนา เงากระจ่าง รับบท “เรียม”, ส. อาสนจินดา, ชลิต เฟื่องอารมย์, เศรษฐา ศิระฉายา และศรินทิพย์ ศิริวรรณ ถ่ายทำด้วยฟิล์ม 70 มม. ฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2520 มีคำโฆษณาหนังว่า “เราจักสำแดงความเป็นไทยต่อโลก” มีเพลงประกอบคือเพลงแสนแสบ ประพันธ์คำร้องโดย ชาลี อินทรวิจิตร ทำนองโดย สมาน กาญจนะผลิน ขับร้องโดย ไพรวัลย์ ลูกเพชร (เพลงนี้เคยขับร้องโดย ชรินทร์ นันทนาคร เมื่อ พ.ศ. 2503) ในขณะถ่ายทำ เนื่องจากเป็นภาพยนตร์แนวย้อนยุค

ในขณะที่ผู้สร้างในขณะนั้นนิยมสร้างภาพยนตร์ร่วมสมัย จึงไม่มีผู้ค้ารายใดซื้อหนังเรื่องนี้ไปฉายเลย แต่เมื่อภาพยนตร์ออกฉาย ปรากฏว่าเป็นที่นิยม ทำรายได้สูงสุดในประเทศไทย ได้รับรางวัลบทประพันธ์ยอดเยี่ยมและรางวัลเครื่องแต่งกายและแต่งหน้ายอดเยี่ยมจากการประกวดในประเทศ ได้รับโล่เกียรติยศภาพยนตร์ที่เชิดชูเอกลักษณ์ไทยยอดเยี่ยมจากพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น พ.ศ. 2524 “แผลเก่า” ได้รับรางวัลกรังด์ปรีซ์จากการประกวดภาพยนตร์ในงาน Festival des 3 Continents เมืองน็อง ประเทศฝรั่งเศส พ.ศ. 2541

“แผลเก่า” ได้รับเลือกจากหอภาพยนตร์และโทรทัศน์แห่งชาติของประเทศอังกฤษ (National Film and Television Archive) ร่วมกับนิตยสาร Sight and Sound ของสถาบันภาพยนตร์อังกฤษ (British Film Institute) และผู้กำกับภาพยนตร์และนักวิจารณ์ภาพยนตร์จากทั่วโลก ให้เป็น 1 ใน 360 ภาพยนตร์คลาสสิคของโลก โดยมีการประกาศผลเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2544 พ.ศ. 2550 มูลนิธิหนังไทยร่วมกับหอภาพยนตร์แห่งชาติ นำผลงานภาพยนตร์ของเชิด ทรงศรี จำนวน 5 เรื่อง รวมทั้งแผลเก่า มาจัดฉายอีกครั้งในระหว่างวันที่ 21 – 30 กันยายน พ.ศ. 2550 เพื่อนำรายได้ไปจัดสร้างประติมากรรมขนาดเท่าตัวจริงของเชิด ทรงศรี เพื่อจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ไทย หอภาพยนตร์แห่งชาติ ศาลายา

ติดตามข่าวสารทาง Facebook ได้ที่เพจ Gupapai

Gallery

Tag

บทความน่าสนใจ