ก่อนอื่นทีมงาน Gupapai ต้องขอกล่าวคำว่าสวัสดี ราตรีสวัสดิ์ เฮ้ย!! ไม่ใช่จะลากันซะล่ะ วันนี้ทีมงานขออาสาเป็นไกด์นำเพื่อนๆ ไปชม ร้านที่ชิลล์ แบบว่าสุดๆ จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบรรยากาศ รสชาติอาหาร และการบริการ แบบว่าตอนที่เขียนรีวิวอยู่นี้ยังจำภาพเหล่านั้นได้หมดเลย เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ทีมงานขอเริ่มรีวิวเลยแล้วกัน
โดยร้านที่ทีมงานไปรีวิวก็คือร้าน Chilling House Cafe’ ซึ่งตั้งอยู่ในโซนของ Co-Co Wall ตรงข้ามกับโรงแรมเอเชีย (ราชเทวี) สำหรับร้านนี้จะเน้นแต่งร้านแบบชิลล์ๆ เหมือนนั่งอยู่ที่บ้าน ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นบ้านหลังที่สอง จะชวนเพื่อนมาแฮงค์เอ้าท์ก็ได้ฟิวสีดีใช่เล่น
สำหรับเพื่อนๆ ที่ขับรถยนต์รถมาสามารถจอดได้ที่โซนที่จัดไว้ตรง C0 C0 Walk ที่จอดก็มีเยอะพอสมควร แต่ทางร้านบอกทีมงานว่าถ้าเป็นช่วง ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ที่จอดจะเต็ม ถ้าอย่างไร มาเร็วกันหน่อยก็ดี (เดี๋ยวจะหาที่จอดไม่ได้) ส่วนค่าบริการก็ชั่วโมงละ 10 บาท แต่ถ้ามาที่ร้านสามารถปั้มบัตรจอดรถได้ฟรี 4 ชั่วโมง (ร้าน Chilling House Cafe‘ จะอยู่ด้านหลังสุดตรงกลางโซน Co Co Walk)
ถ้าเพื่อนๆ จะมาทางรถไฟฟ้า ก็สามารถลงได้ที่สถานีราชเทวี (BTS) ร้าน Chilling House Cafe’ จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงแรมเอเชีย
ตรงนี้จะเป็นด้านหน้าของ Co Co Walk ซึ่งถ้าเพื่อนๆ เข้าทางนี้ให้เดินตรงเข้าไปสุดเลย ร้าน Chilling House Cafe’ จะอยู่ด้านหลัง
เมื่อเข้าสู่ร้าน Chilling House Cafe’ จะมีป้ายแจ้งลูกค้าชัดเจน น้องๆ ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ก็รอให้อายุถึงก่อนแล้วค่อยมาเที่ยวกันนะ
ด้านในร้าน Chilling House Café จะตกแต่งร้านเป็นสไตล์ Retro ย้อนยุค ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และโซฟายุค 80 ให้ความรู้สึกสบายๆ อบอุ่น ร้านนี้จะเน้นสไตล์ชิลล์ๆ เหมือนอยู่ที่บ้าน ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นบ้านหลังที่สอง โดยทางร้านเค้าจะมีการรีโนเวทร้านอยู่เสมอๆ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสบรรยากาศใหม่ๆ ไม่จำเจในแบบเดิมๆ (ชอบจังเลย)
ส่วนของผนังก็ตกแต่งด้วยโปสเตอร์รุ่นทีมงานยังเป็นเด็กอยู่เลย (พอจำได้ลางๆ 555)
ผนังอีกด้านก็มีตู้โชว์โมเดลฮีโร่ ขวัญใจทีมงานสมัยยังเด็กๆ เห็นแล้วนึกถึงช่วงยังวัยเยาว์
โซฟายุค 80 ที่ทีมงานไม่ได้นั่งมานานมากแล้ว ขอบอกว่าร้านนี้เค้าเก็บรายละเอียดบรรยากาศร้านได้ทุกเม็ดจริงๆ
อีกมุมหนึ่งที่ทางร้านเตรียมไว้รับรองลูกค้า ขอบอกว่าที่เห็นว่าง ไม่ใช่ไม่มีลูกค้านะ เพียงแต่ทีมงานมาเร็วหน่อยจะได้เก็บภาพสวยๆ มาฝากเพื่อนๆ
อีกจุดหนึ่งที่ทีมงานอยากจะบอกคือ ทางร้านเค้าติดตั้งทีวีไว้หลายจุด เพื่อที่ลูกค้าคนไหนติดละครหรือติดบอลก็สามารถเลือกชมได้
โซนนี้เป็นโซนแอร์ (ชมดนตรีสด) ทางร้านจะตกแต่งคล้ายๆ กับอีกโซนที่ทีมงานได้บรรยายไว้ก่อนหน้านี้
ลูกค้าเห็นทีมงาน Gupapai หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายก็เล่นกล้องด้วย แหม่!! ผมนี้อดยิ้มไม่ได้เลย แอบตกใจเล็กๆ 555
หลังจากที่ทีมงานนั่งที่ร้านไปสักพัก ก็สะดุดกับเสื้อน้องๆ พนักงานเสิร์ฟ จนต้องเข้าไปขอน้องเค้าถ่ายสักภาพ
คำแปลบนหลังเสื้อก็คือ …
เมื่ออาหารมาถึงก็ต้องถ่ายภาพเก็บไว้ก่อน ถึงจะหิวแค่ไหน เรื่องงานต้องมาก่อน (จริงไหม 555)
เมนูแรกเป็นแหนมกระดูกหมู สูตรเฉพาะของร้าน Chilling House Cafe’ จัดมาด้วยเครื่องเคียงแบบเต็มสูตร (ฉบับคอเหล้าเลย) ทีมงานไม่รอช้าหยิบแหนมกระดูกหมูมาชิ้นพร้อมเครื่องเคียงทั้งหมดเข้าปาก อืม!! รสชาตินี้กำลังดี พริกที่ทานก็ไม่เผ็ดมาก มันช่างเข้ากันจริงๆ
เมนูนี้ชื่อว่าไก่กรอบซอสครีมมะนาว รสชาติที่ได้จะเข้มข้นด้วยซอสครีมตัดเปรี้ยวมะนาว มันช่างเข้ากัน ขอบอกว่าไก่ของทางร้านทั้งกรอบทั้งนุ่มอร่อยทีเดียว
ข้อไก่ทอดที่พิเศษไม่เหมือนร้านไหน เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด ขอบอกว่ามันกรอบและรสชาติกำลังพอดี แม้ทีมงานจะทิ้งไว้นาน มันก็ยังกรอบอยู่เลย
มาถึงเมนูนี้คือไก่ทอดชิลล์ลิ่ง แหม่ เอาชื่อร้านมาตั้งแบบนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน สำหรับไก่ทอดชิลล์ลิ่งนี้จัดมาพร้อมเครื่องเคียงที่จัดเต็มอย่างกระเทียมเม็ดโตๆ และเสริมมาด้วยใบมะกรูตเพราะดับกลิ่นคาว แถมด้วยน้ำจิ้มสองแบบคือแบบหวานและซีฟู๊ด
ต่อมาก็ถึงเมนูขี้เมากันหน่อย เมนูนี้ชื่อว่ายำคะน้ากุ้งสด จัดมาพร้อมกุ้งตัวโตๆ และคะน้าอ่อนราดมาด้วยน้ำจิ้มซีฟู๊ด ขอบอกว่าเมนูนี้แซ่บมากเลย
ทีมงาน Gupapai ขอจัดเรียงอาหารเพื่อเก็บภาพรวมให้ดูสักหน่อยว่ามันน่าทานแค่ไหน
เมนูนี้ทางร้านเค้าจัดพิเศษให้ลูกค้าเลย นั่นก็คือข้าวผัดเบคอนมันกุ้งกรอบ แค่ชื่อก็สุดติ่งกระดิ่งแมวแล้ว ไม่ได้แค่ชื่อที่สุดติ่ง รสชาติก็เช่นกัน เพราะข้าวที่ไม่แฉะและได้เบคอนพร้อมมันกุ้งแบบกรอบ มันทำให้เข้ากันอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ เพื่อนๆ ต้องลองมาทานกันเอง เดี๋ยวจะหาว่าโม้ 555
มาดูเบคอนมันกุ้งกรอบแบบชัดๆ กัน
คราวนี้มาถึงเมนูสุดท้ายที่ทีมงาน Gupapai จะแนะนำล่ะ เมนูนี้เป็นต้มโคล้งปลากรอบ แบบว่าหอมกลิ่นปลากรอบและเครื่องเทศมาก แถมเวลาเข้าปากมันก็เข้มข้นถึงเครื่องจริงๆ ^-^
ได้อาหารอร่อยๆ แล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ ก็ต้องเป็นสิ่งนี้ ทีมงานเลือกผสมน้ำแอปเปิ้ล ซึ่งสูตรนี้ทางร้านเค้าคิดเอง แบบว่ารสชาติไม่เหมือนใคร สรุปคือกลมกล่อมมาก
พอดีเห็นทางร้านติดแบรนด์น้ำดื่มด้วยเลยถ่ายเก็บไว้
อาหารว่างมีทั้งหมด 29 เมนู แบบว่ามีให้เลือกเยอะจริงไรจริง
ส่วนอาหารประเภทยำก็ไม่แพ้กัน มีทั้งหมด 30 เมนู
ส่วนใครมากันน้อยไม่กี่คน ก็สามารถเลือกสั่งอาหารจานเดียวมาทานกันได้ แต่ถ้ามาเป็นแก๊งค์ก็จัดจานใหญ่ไปเลย มีให้เลือกทั้งหมด 5 เมนู หรือจะเป็นอาหารประเภทเส้นก็มีทั้งหมด 8 เมนู
ส่วนใครอยากจัดอาหารหลัก ก็เลือกได้ตามสบายๆ ทั้งหมด 17 เมนู สุดท้ายเป็นอาหารประเภทต้ม มีทั้งหมด 12 เมนู เอาเป็นว่าทีมงานว่าเมนูให้เลือกทานเยอะมาก
ปิดท้ายนี้ ทีมงานได้มีโอกาสได้คุยกับคุณนิว (หุ้นส่วนร้าน Chilling house Cafe’) ขอบอกว่าเป็นกันเองมาก สมกับเป็นคนรุ่นใหม่ที่คุณนิวบอกทีมงานว่าเค้าทำงานนี้ด้วยใจจริงๆ เพราะทุกรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาร้านในแต่การแต่งร้าน คิดเมนูใหม่ๆ พัฒนาบุคลากรในเรื่องการบริการลูกค้า แหม่!! ทีมงานไม่แปลกใจเลยว่าร้านนี้คนเยอะจริงๆ มีเข้ามาร้านตลอด แม้กระทั่งวันธรรมดา คนเต็มร้านเลย เพื่อนๆ ที่จะไปช่วง ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ขอบอกว่าโทรจองล่วงหน้าก่อนเลย เดี๋ยวไปแล้วไม่มีโต๊ะ เสียใจแย่เลย ^__^
ประวัติร้าน Chilling House Cafe‘ : เริ่มต้มจากเพื่อน 3 คน เพราะชอบแฮงค์เอ้าท์กันบ่อย จึงรวมตัวกันเปิดร้าน โดยมีหุ้นส่วนคือ คุณนิว คุณแป๊ะ และคุณลิท ซึ่งร้านนี้เปิดมาเป็นเวลา 11 ปีแล้ว ปัจจุบันมีร้านในเครือ Chilling Group ทั้งหมด 3 ร้าน คือ Chilling House Cafe’ , Hungry nerd และ Checkmate
Chilling House Café เป็น Pub and restaurant การตกแต่งร้านเป็นสไตล์ Retro ย้อนยุค ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และโซฟายุค 80 ให้ความรู้สึกสบายๆ อบอุ่น ร้านเน้นสไตล์ชิลล์ๆ เหมือนนั่งอยู่ที่บ้าน ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นบ้านหลังที่สอง โดยทางร้านจะมีการรีโนเวทอยู่เสมอ เพื่อที่จะได้ไม่จำเจกับแบบเดิมๆ ปัจจุบันพนักงานในร้านมีประมาณ 50 คน โดยร้านให้ความสำคัญในทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องบรรยากาศในร้าน คิดเมนูใหม่ๆ และการพัฒนาบุคลากรในเรื่องการบริการสม่ำเสมอ
เวลาเปิด ปิด : 17.30 - 01.00 น. เปิดบริการทุกวัน
สอบถามรายละเอียดและสำรองโต๊ะตามนี้จ้า
Reseavation: 086-8226188
FB: chillinghousecafe
IG: chillinghousecafe
LINE: @chillinghousecafe
บทความและรูปภาพ : ทีมงาน Gupapai